สาเหตุของการเกิดของโรคกรดไหลย้อน

  • ทำงานเยอะเกินไป เลิกงานดึก ก็จะทานอาหารดึกไปด้วย ส่วนใหญ่ทานแล้วเข้านอนทันที จะทำให้ความดันในช่องท้องมีมากขึ้น ทำให้เกิดอาการกรดไหลย้อนเกิดได้ง่ายขึ้น
  • ภาวะเครียดเพราะงาน หรือปัญหาต่าง ๆ ส่วนตัว เมื่อเกิดอาการเครียด กระเพาะอาหาร ลำไส้ หรือ หลอดอาหาร จะทำงานได้น้อยลง และมีการหลั่งของกรดมากขึ้น ทำให้มีโอกาสเกิดกรดไหลย้อนได้มากขึ้น
  • ชนิดของอาหารที่รับประทาน ปัจจุบันคนนิยมอาหารจำพวกฟาสท์ฟู้ดมากขึ้น เช่น แฮมเบอร์เกอร์ ไก่ทอด ไส้กรอก พิซซ่า และอาการจำพวกทอด และผัดโดยใช้น้ำมัน อาหารเหล่านี้จะย่อยค่อนข้างยาก ทำให้การเคลื่อนไหวของกระเพาะอาหารช้าลง และใช้เวลานานในการย่อยอาหาร ทำให้ท้องอืดได้ง่าย และยังทำให้คามดันในช่องท้องมีมากขึ้น
  • ชา กาแฟ ชานมไข่มุก ซึ่งเป็นที่นิยมดื่มกันมากในขณะนี้ การทานเป็นประจำจะทำให้การทำงานของกล้ามเนื้อหูรูดของหลอดอาหารส่วนล่างหย่อน  จึงมีโอกาสในการเกิดกรดไหลย้อนได้ง่ายขึ้น
  • คนที่มีน้ำหนักตัวมากเกินค่าปกติ (อ้วน) จะทำให้ความดันในช่องท้องเพิ่มมากขึ้น และคนที่ขาดการออกกำลังกาย จะทำให้มีโอกาสเกิดกรดไหลย้อนได้มากกว่าคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ เพราะการออกกำลังกายจะทำให้กระเพาะ และลำไส้เคลื่อนตัวได้ดี
  • การติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิด คือ Helicobacter Pylori หรือ ที่คนเป็นกรดไหลย้อนจะรู้กันในนาม H.pylori ซึ่งเชื้อตัวนี้เมื่อติดแล้ว จะเป็นแผลในกระเพาะอาหารง่ายมาก และทำให้มีอัตราการเสี่ยงในการเกิดของมะเร็งกระเพาะอาหาร 

อาการที่คนเป็นกรดไหลย้อนต้องเจอ (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลที่เป็น)

  • อาการปวดแสบร้อนบริเวณหน้าอก และลิ้นปี่ บางครั้งอาจร้าวไปที่บริเวณคอได้
  • อาการคล้าย ๆ มีก้อนจุดอยู่ที่คอ หรือแน่นๆ ที่คอ
  • กลืนอาหาร หรือแม้กระทั่งกลืนน้ำลาย ลำบาก เจ็บ หรือ กลืนติดๆ ขัดๆ คล้ายสะดุดกับสิ่งแปลกปลอมในลำคอ
  • เจ็บคอ แสบคอ แสบปาก แสบลิ้นเรื้อรัง โดยเฉพาะในตอนเช้า
  • อาการเหมือนมีรสชมของน้ำดี หรือรสเปรี้ยวของกรดในลำคอ มีเสมหะในลำคอ หรือระะคายคออยู่ตลอดเวลา
  • อาการเรอบ่อย คลื่นไส้ เหมือนอาหาร หรือน้ำย่อยไหลย้อนขึ้นมากลางอก หรือที่ลำคอ
  • อาการจุดแน่นบริเวณหน้าอก คล้ายอาหารไม่ย่อย
  • อาการมีน้ำลายมากผิดปกติ มีกลิ่นปาก เสียวฟัน หรือมีฟันผุ เป็นต้น
  • เสียงแหบเรื้อรัง หรือแหบเฉพาะตอนเช้า หรือมีเสียงผิดปกติไปจากเดิม
  • ไอเรื้อรัง โดยเฉพาะหลังรับประทานอาหาร หรือขณะนอน
  • ไอ หรือ รู้สึกสำลักน้ำลาย หรือหายใจไม่ออกในเวลากลางคืน
  • กระแอมไอบ่อย ๆ
  • อาการหอบหืด สำหรับคนที่เคยเป็นอยู่ จะมีอาการมากขึ้น
  • อาการเจ็บหน้าอก
  • อาจมีอาการคล้ายโรคปอดอักเสบ ซึ่งจะเป็น ๆ หาย ๆ
  • คัน จาม คัดจมูก น้ำมูกไหล หรือมีน้ำมูก และเสมหะไหลลงคอตลอด
  • หูอื้อ เป็น ๆ หาย ๆ หรือปวดหู
  • ปวดตึง คอ บ่า ไหล่

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม จะทำให้เป็นโรคกรดไหลย้อนน้อยลง

ปรับเปลี่ยนการทานอาหาร

  • หลังทานอาหารทันที พยายามหลีกเลี่ยงการนอนราบ หลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย และหลีกเลี่ยงการยกของหนัก การเอี้ยวตัว หรือ ก้มตัว
  • หลีกเลี่ยงการทานอาหารมื้อดึก และไม่ควรรับประทานอาหาร หรือดื่มเครื่องดื่มใด ๆ อย่างน้อยภายในระยะเวลา 3 ชั่วโมง ก่อนนอน
  • พยายมทานอาหารที่มีไขมันต่ำ และหลีกเลี่ยงอาหารที่ปรุงด้วยการผัด หรือทอด อาหารมัน อาหารย่อยยาก พืชผักบางชนิด เช่น หัวหอม กระเทียม มะเขือเทศ ผลไม้ และอาหารบางชนิดที่ควรหลีกเลี่ยง เช่น ทุเรียน อาหารฟาสท์ฟู๊ด เช่น พิซซ่า ช็อคโกแลต ถั่ว เนย ไข่ (ทานได้เฉพาะไข่ขาว) นม (ทานได้เฉพาะนมขาดมันเนย หรือไร้ไขมัน คือไขมันเป็น 0%) น้ำเต้าหู้ (ทำจากถั่ว จะทำให้เกิดแก๊สในช่องท้องมาก) หรืออาหารที่มีรสจัด เช่น เผ็ดจัด เปรี้ยวจัด เค็มจัด หวานจัด เป็นต้น
  • ทานอาหารในปริมาณที่พอดีในแต่ละมื้อ ไม่ควรทานอาหารจนอิ่ม แน่นท้องมากเกินไป
  • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มบางประเภท เช่น ชา กาแฟ (แม้ว่าจะเป็นกาแฟที่ไม่มีคาเฟอีนก็ไม่ควรดื่ม) ชา กาแฟ จะทำให้กล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารส่วนล่างหย่อน น้ำอัดลม จะทำให้เกิดแก๊สในช่องท้องมาก เครื่องดื่มชูกำลัง เครื่องดื่มที่ผสมแอลกอฮอล์ เช่น เบียร์ วิสกี้ ไวน์ โดยเฉพาะในตอนเย็น

ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอน

  • ไม่ควรนอนหลังทานอาหารทันที ควรนอนหลังทานอาหารอย่างน้อย 3 ชั่วโมง 
  • เวลานอน ห้ามยกศรีษะสูง โดยไม่ใช้หมอนรองศรีษะให้สูง เพราะจะทำให้ความดันในช่องท้องเพิ่มมากขึ้น ถ้านอนพื้น หรือหรือนอนฟูก ให้หาแผ่นไม้ขนาดเท่าฟูก รองใต้ฟูก แล้วใช้ไม้ หรืออิฐยกแผ่นไม้ดังกล่าวขึ้น เพื่อการนอนแนวราดชัน จะช่วยลดอาการกรดไหลย้อนได้ในขณะนอนหลับ

ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมส่วนตัว

  • หากมีน้ำหนักมากเกินไป ควรพยายามลดน้ำหนัก เนื่องจากภาวะน้ำหนักเกินจะทำให้ความดันในช่องท้องเพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดอาการกรดไหลย้อนได้มากขึ้นตามไปด้วย
  • หลีกเลี่ยงการเบ่ง เวลาท้องผูก เพราะเวลาเบ่งเมื่อขับถ่าย ทำให้ความดันในช่องท้องเพิ่มาากขึ้น ควรหาตัวช่วยที่ปลอดภัยเพื่อทำให้ลำไส้ทำงานดี และขับถ่ายได้คล่องขึ้น
  • หมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอ

สอบถามรายละเอียด ข้อมูลผลิตภัณฑ์ หรือ ต้องการสั่งซื้อ
 โทร 088-919-1559  หรือ สะดวกแอดไลน์ : @grd168 (ใส่ @ ข้างหน้า)
หรือ คลิกกด ที่ภาพด้านล่าง เพิ่มเพื่อนได้เลยค่ะ